เคล็ดลับน่ารู้ 8 วิธีปฏิบัติตน เมื่อต้องเผชิญหน้าสุนัขดุ และ ป้องกันอันตรายสุนัขกัด
จากสถิติพบว่าสุนัขที่กัดคนนั้นส่วนใหญ่แล้วไม่ใช่สุนัขจรจัด แต่เป็นสุนัขที่มีเจ้าของเลี้ยง และจากรายงานส่วนใหญ่พบว่าไม่ได้เกิดจากการไปแหย่ให้มันโกรธด้วย
ดังนั้น เชื่อว่าหลายคนต้องเคยเจอสถานะการณ์ที่ต้องเผชิญหน้ากับสุนัขดุอย่างแน่นอน เรามาเรียนรู้วิธีปฏิบัติตัวที่ถูกต้องกันดีกว่า

1. เรียนรู้สัญญาณเตือนเหตุ
ก่อนที่สุนัขจะกัด มันมักจะแสดงออกให้เรารู้และส่งสัญญาณบางอย่างบอกล่วงหน้าก่อนเสมอ ซึ่งลักษณะที่ควรระวังคือ- เสียงคำราม , แยกเขี้ยว หรือเห่าอย่างก้าวร้าว ขนพอง , หูตั้ง , ลำตัวตั้งปึ่ง แข็งขัน , หางยกสูง
- อาการตื่นหรือกลัว เช่น สุนัขจะหมอบลง ส่วนหัวจะต่ำ หางตกอยู่ระหว่างขาหลังสุนัขที่ขี้ตื่นกลัวนี้มีอันตรายพอ ๆ กับสุนัขที่ก้าวร้าว
- สุนัขที่สงบนิ่งหรือเซื่องซึมผิดธรรมดา ผ่านการต่อสู้มาแล้วหลายครั้งเป็นสิ่งที่สอนให้พวกมันต้องปกปิดความดุร้ายเอาไว้
- สุนัขบาดเจ็บ จะกัดคนทุกคนที่ไปแตะต้องตัวมัน แม้แต่ผู้เป็นเจ้าของมันเองก็ตาม
2. อย่าสบตามัน หรือจ้องหน้ามัน
คุณควรจะใช้สายตาดูมัน เพื่อป้องกันไม่ให้มันจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว แต่ควรหันหลบ เป็นระยะ อย่าจ้องมันเขม็ง เพราะว่าการกระทำเช่นนี้ทำให้สุนัขรู้สึกว่าโดนรบกวนและกำลังถูกคุกคาม ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจหากสุนัขจะกระโดดกัด หลังจากที่มีคนมองตา3. อย่าแสดงอาการกลัว , ตกใจ ,หรือวิ่งหนี
สุนัข สามารถรับรู้ความรู้สึกหวาดกลัว หากคุณตกใจกลัว วิ่ง หรือกรี๊ดออกมา จะยิ่งทำให้สุนัขมั่นได้ใจว่ามันเหนือกว่า และการวิ่งหนีจะปลุกสัญชาตญาณการล่าเหยื่อของสุนัข มันจะวิ่งไล่จับคุณเหมือนเป็นเหยื่อ (ยกเว้นถ้ามีที่หลบใกล้ๆ และมั่นใจว่าเข้าไปหลบทัน ก็ควรวิ่งไปหลบให้พ้นจากสายตาสุนัข) วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือ ให้ยืนอยู่นิ่งกับที่ราวกับรูปปั้นต่อหน้าสุนัข หลีกเลี่ยงสบตา สุนัขจะเลิกสนใจและเดินจากไปเอง4. เบี่ยงเบนความสนใจ
หากสุนัขยังคงคุกคามและขู่คุณ พยามยามหาของที่ติดตัวคุณมา เช่น ขนม อาหาร ขวดน้ำ รองเท้า หรือกระเป๋า ให้มันเคี้ยวไปพลางๆ หันเหความสนใจจากคุณเพื่อให้คุณพอจะมีเวลาเดินหนี5. หาอาวุธติดมือไว้บ้าง (ถ้าเจอ)
ถ้าแถวบริเวณที่คุณอยู่ พอจะมีเศษไม้ หรืออะไรที่พอจะใช้เป็นอาวุธป้องกันตัวได้ ก็หยิบมาไว้ก่อน แต่อย่าเอาไปต่อสู้กับสุนัขโดยไม่จำเป็น ถ้าสุนัขกระโจนเข้าหาคุณ ถ้าในมือคุณถือสิ่งของอยู่ ให้ใช้ของนั้นยัดเข้าไปในปากมัน6. ลองออกคำสั่งไล่
สุนัขที่มีเจ้าของ มักจะคุ้นเคยกับเสียงคำสั่งห้าม ซึ่งคำสั่งก็มักจะอยู่ในแนว ถอยไป , ออกไป ,อย่า ซึ่งจริงๆแล้ว ก็อาจจะมีความแตกต่างกันแล้วแต่ภูมิภาคที่มันอาศัยอยู่ เช่น ถ้าภาคอีสาน นิยมทำเสียง จุ๊ๆๆ เพื่อไล่สุนัข (ภาคอื่นผู้เขียนไม่ทราบ เพราะผู้เขียนอยู่ภาคอีสาน) หากจำเป็นให้คุณออกคำสั่งด้วยโทนเสียงต่ำ น้ำเสียงหนักแน่น มั่นใจ แต่ยังต้องเลี่ยงการสบตา การออกคำสั่งนี้เป็นการกำราบให้มันกลัว ไม่กล้ายุ่งกับคุณ และล่าถอยไป7. เดินออกจากพื้นที่นั้นอย่างช้าๆ
พยายามค่อยๆ ถอยออกจากตรงนั้นช้าๆ สลับหยุดนิ่ง เพื่อให้มั่นใจว่ามันไม่สนใจคุณแล้วจริงๆ อย่าหันหลังให้กับมันนาน มันอาจจะลอบกัดคุณ ควรหันมองมันเป็นระยะ แต่อย่าสบตามันนาน คุณอาจจะใช้วิธีการเดินถอยหลังออกจากมันก็ได้8. ถ้าโดนจู่โจมแล้ว พยายามป้องกันใบหน้า ช่วงหน้าอกและลำคอ
ถ้าวิธีทั้งหมดไม่ได้ผลและสุนัขเริ่มโจมตีคุณ พยายามปกป้องจุดสำคัญของร่างกายคือ ใบหน้า ลำคอ และช่วงอก เพราะถ้าจุดเหล่านี้เสียหายจะเสี่ยงต่อชีวิตมากที่สุด พยายามอย่าให้ล้ม หากคุณเสียหลักล้มลงกับพื้นเป็นอะไรที่ยากมากถ้าจะสู้กลับ ถ้าคุณล้มลงบนพื้น อย่าเคลื่อนไหวหรือร้อง ให้คุณทำตัวให้เป็นเหมือนเต่าโดยการก้มหน้าลงพร้อมกับม้วนตัวให้กลม ใช้แขนปิดศีรษะไว้ อยู่นิ่งในท่านี้จนกว่าสุนัขจะหนีไปจดไว้ : คาถาป้องกันสุนัข มีคนเคยทดลองแล้ว ไม่ได้ผล แต่ถ้าคุณจะลองดูก่อนก็ได้ "นะโมพุทธายะ นะมะอะอุ อิสวาสุ อุอะมะ"