สอนกีตาร์เบื้องต้น ตอนที่ 9 การดีดกีตาร์โดยนิ้ว หรือการเกา (Finger Style)
การเกากีตาร์
โดยส่วนที่สัมผัสกันระหว่างปลายนิ้ว กับ สายกีตาร์ในตอนดีดนั้น ถ้าเป็นนิ้วโป้ง จะใช้ด้านข้างด้านที่อยู่นอกตัวมือ ส่วนนิ้ว ชี้ , กลาง , นาง จะอยู่ปลายนิ้วค่อนไปทางนิ้วโป้ง อธิบายอย่างนี้อาจจะเข้าใจยาก ดูรูปประกอบจะดีกว่า จากรูปส่วนที่เป็นสามเหลี่ยมเล็กๆคือส่วนที่นิ้วสัมผัสกับสายกีตาร์
การเล่นกีตาร์สไตล์นี้ จริงๆแล้วไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแต่ต้องการการฝึกทักษะของนิ้วให้คุ้นเคยกับงานดีดสาย และสามารถวางนิ้วลงตำแหน่งที่ควรอยู่ได้อย่างอัตโนมัติเท่านั้นเอง ซึ่งหากจะแบ่งรูปแบบในการเกาสายที่เป็นที่นิยมเล่นกันมากที่สุด จะมีอยู่ 3 รูปแบบ แบ่งตามจำนวนนิ้วที่ใช้เล่นเสียงสูง ดังนี้
การเกากีตาร์แบบ 3 นิ้ว
รูปแบบนี้จะมีการแบ่งให้นิ้วโป้งใช้ดีดสายที่ให้เสียงเบส นั่นคือสายที่ 4,5,6 ส่วนนิ้วที่เหลือจะดีดสายที่ให้เสียงสูง คือนิ้วชี้จะดีดประจำที่สายที่ 3 , นิ้วกลางจะดีดประจำที่สายที่ 2 และนิ้วนางจะดีดประจำที่สายที่ 1ปกติการเกาสายรูปแบบนี้ จะเหมาะมากในกรณีการเล่นแบบกระจายเสียงคอร์ด(Arpeggio) ที่ต้องการเสียงกังวาลประสานกัน (Ring) ซึ่งมักมีแพลตเทิร์นในการดีดที่ซ้ำไปซ้ำมา จึงนิยมใช้เล่นเป็นดนตรีเพื่อประกอบการร้อง

การเกากีตาร์แบบ 2 นิ้ว
รูปแบบนี้จะมีการแบ่งให้นิ้วโป้งใช้ดีดสายที่ให้เสียงเบส นั่นคือสายที่ 4,5,6 ส่วนนิ้วที่เหลือจะใช้เพียงนิ้วชี้ และ นิ้วกลาง ที่จะสลับกันดีด (คล้ายการเคลื่อนไหวของขาเวลาวิ่ง) ประจำสาย 1,2,3 อย่างไรก็ตามบางครั้งก็มีการใช้นิ้วโป้งไปเล่นสายที่ 1,2,3 ด้วยเช่นกัน หรือบางทีนิ้วชี้และนิ้วกลาง ก็ไปเล่นสาย 4,5,6 ได้เช่นกัน โดยให้พิจารณาตามความเหมาะสมของแต่ละเพลงปกติการเกาสายรูปแบบนี้ จะเหมาะมากในกรณีการเล่นเพลงบรรเลงแบบเดี่ยวกีตาร์ เพราะนิ้วชี้และนิ้วกลาง เมื่อดีดสลับกัน จะมีความคล่องตัว และสามารถดีดได้ถี่และรวดเร็ว

การเกากีตาร์แบบ 1 นิ้ว
รูปแบบนี้จะมีการแบ่งให้นิ้วโป้งใช้ดีดสายที่ให้เสียงเบส นั่นคือสายที่ 4,5,6 ส่วนนิ้วที่จะใช้เล่นสายเส้นที่เป็นเสียงสูงทั้งหมดคือสายที่ 1,2,3 จะใช้นิ้วชี้เพียงนิ้วเดียวซึ่งวิธีนี้อาจดูง่ายสำหรับผู้เริ่มหัด แต่กรณีที่เล่นเพลงที่ซับซ้อน จะค่อนข้างสับสน และหลงสายได้ง่าย และเมื่อยนิ้วง่ายด้วย จึงไม่ค่อยนิยมนำมาเล่นในแบบบรรเลงเดี่ยวกีตาร์ หรือแบบกระจายคอร์ดเท่าใดนัก อย่างไรก็ตาม การเล่นแบบนิ้วเดียวกลับมีความคล่องตัว ในกรณีใช้เล่นคอร์ดในแพล็ตเทริ์นที่ใช้นิ้วโป้งเล่นเดินเบส สลับกับการใช้นิ้วชี้ตลัดขึ้นเพื่อเล่นสายเส้นล่างๆทั้ง 3 เส้นพร้อมกัน

อย่างไรก็ตาม รูปแบบการเกาทั้ง 3 รูปแบบที่กล่าวมาแล้วข้างต้นนั้น เราควรจะฝึกฝนให้สามารถเล่นได้ทั้ง 3 รูปแบบ อย่างชำนาญ เพราะในเพลงบางเพลง ก็มีความซับซ้อนของทำนอง จนอาจจำเป็นที่จะต้องใช้ทั้ง 3 รูปแบบผสมผสานกัน
จุดเด่นของการดีดโดยใช้นิ้ว
1. สามารถเล่นเสียงประสาน จากสายกีตาร์ตั้งแต่ 2-4 เส้นพร้อมกัน โดยที่สายแต่ละเส้นไม่จำเป็นต้องอยู่ติดกัน2. มีความคล่องตัวในการดีดแบบกระจายคอร์ด ที่มีแพล็ตเทริ้นในการดีดซ้ำๆกันตลอดทั้งเพลง
3. การดีดคอร์ดด้วยวิธีการใช้นิ้วทั้ง 4 ดีดพร้อมกัน ให้ความรู้สึกคลาสสิค คล้ายเสียงเปียโน
จุดด้อยของการดีดโดยใช้นิ้ว
1. เสียงจากการดีดจะไม่ใส,ชัดเจน เหมือนกับการใช้ปิ๊ค2. สำหรับการดีดทำนองที่เร็ว เช่น การเล่นลูกนิ้ว (Lick) แบบต่างๆ จะไม่คล่องเท่ากับการดีดด้วยใช้ปิ๊ค
จดไว้ : สัญลักษณ์ทางโน๊ตกีตาร์ เพื่อบอกว่าให้ใช้นิ้วใดในการเกาสาย มีดังนี้
T = นิ้วโป้ง
I = นิ้วชี้
M = นิ้วกลาง
A = นิ้วนาง
O = นิ้วก้อย

T = นิ้วโป้ง
I = นิ้วชี้
M = นิ้วกลาง
A = นิ้วนาง
O = นิ้วก้อย

การดีดกีตาร์แนว Finger Style บางครั้ง หากต้องการให้เสียงที่ได้มีความคมชัด,ใส,บาง ก็สามารถสวมปิ๊คนิ้ว (Finger Pick) เข้าไปกับนิ้วที่ใช้ดีดได้ แต่อย่างไรก็ตามการสวมปิ้คนิ้ว อาจทำให้ความคล่องตัวในการเกาสายลดน้อยลง
การดีดโดยใช้ปิ๊คผสมนิ้ว
จริงๆแล้ววิธีนี้ อาจไม่ได้ถือว่าเป็นวิธีหลักในการใช้เล่นเพลง เพียงแต่เป็นการเล่นแนวพลิกแพลงเพื่อใช้เล่นกับบางเพลงที่ต้องการเสียงที่เกิดจากจุดเด่นของการดีดสายโดยใช้ปิ๊ค และการดีดโดยใช้นิ้วหรือการเกาสายไว้ด้วยกัน ซึ่งรูปแบบการเล่นที่นิยมมีอยู่สองรูปแบบคือ1. ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้จับปิ๊คดีดเหมือนปกติ แต่ช่วงที่จำเป็นต้องเกาสาย จะใช้นิ้วกลาง, นาง, ก้อย ในการเล่น
2. ใส่ปิ๊คนิ้วให้กับนิ้วโป้ง ดังนั้นเราสามารถจีบนิ้วชี้กับนิ้วโป้ง ได้เหมือนกับตอนจับปิ๊คตามปกติ ให้ใช้ปิ้คนิ้วที่อยู่ที่นิ้วโป้งในการดีดสาย และในช่วงที่จำเป็นต้องเล่นแบบเกาสาย ก็สามารถปล่อยการจีบนิ้ว แล้วใช้งานนิ้วชี้, กลาง ,นาง ในการเกาสายเหมือนการเกาแบบปกติ

จดไว้ : สำหรับกีตาร์โปร่งนั้น ตำแหน่งการวางมือขวา หรือตำแหน่งในการดีด จะให้เสียงที่ต่างกันดังนี้
- ตำแหน่งเหนือโพรงเสียง จะให้เสียงดัง, กังวาน
- ตำแหน่งที่อยู่ใกล้บริดจ์ จะให้เสียงบางใส
- ตำแหน่งเหนือโพรงเสียง จะให้เสียงดัง, กังวาน
- ตำแหน่งที่อยู่ใกล้บริดจ์ จะให้เสียงบางใส