วารีบำบัด วิธีล้างจมูก ทำความสะอาดโพรงจมูก

ประโยชน์ของการล้างจมูก
ช่วยให้โพรงจมูกและบริเวณรูเปิดของไซนัสโล่ง ทำให้บรรเทาอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล ทั้งที่ไหลออกมาข้างนอก และไหลลงคอ ควรล้างจมูก เมื่อมีน้ำมูกเหนียวข้นไม่สามารถระบายออกเองได้ เป็นหวัดเรื้อรัง ไซนัสอักเสบ เยื่อบุจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ นอกจากนั้นการล้างจมูกก่อนการพ่นยาในจมูก จะทำให้ยาสัมผัสกับเยื่อบุจมูกได้มากขึ้น ออกฤทธิ์ได้ดีขึ้นการล้างจมูกอย่างถูกต้องบ่อยๆ จะไม่เกิดโทษ หรืออันตรายต่อจมูก หรือร่างกาย ในทางตรงกันข้าม จะมีประโยชน์โดยช่วยล้างน้ำมูก ล้างสิ่งสกปรกที่คั่งค้างอยู่ในโพรงจมูกออกมา สามารถทำได้ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และ คนชรา
อุปกรณ์ทีต้องใช้
- น้ำเกลือ (ความเข้มข้น 0.9% Normal Saline) ซึ่งจะทำให้จมูกของเราไม่แสบเวลาล้างจมูก เพราะเท่ากับกับความเข้มข้นของเกลือในกระแสเลือดของคนปกติ หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป หรือสามารถทำเองได้โดย ต้มน้ำกรองขนาด 1 ขวดเหล้า (750 ซีซี) ให้เดือด จากนั้นใส่เกลือแกง หรือเกลือที่ใช้ปรุงอาหารลงไป 1 ช้อนชา ( ควรใช้ช้อนตวงมาตราฐาน ซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์ทำอาหารทั่วไป ) แล้วคนให้เข้ากัน เสร็จแล้วปิดไฟ และทิ้งไว้ให้อุ่น (น้ำเกลือที่เตรียมเอง ควรใช้หมดภายใน 1 วัน)- กระบอกฉีดยา ขนาด 20 มิลลิลิตร (ไม่ใส่เข็ม) ถ้ามีจุกสำหรับล้างจมูกจะดีมาก แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร
วิธีการล้างจมูก
1. ควรอุ่นน้ำเกลือก่อนการล้างจมูกเสมอ ให้มีอุณหภูมิพอเหมาะกับเยื่อบุจมูก การใช้น้ำเกลือที่ไม่ได้อุ่นล้างจมูก อาจทำให้เกิดการคัดจมูกหลังการล้างได้ การอุ่นน้ำเกลือสามารถทำได้โดยต้มน้ำให้เดือดในหม้อต้ม หลังจากนั้นปิดไฟ แล้วนำขวดน้ำเกลือลงไปแช่ในน้ำเดือดประมาณ 5 นาที แล้วนำขวดน้ำเกลือนั้น ขึ้นมาเทใส่ภาชนะปากกว้าง เช่น ชาม ในขนาดพอประมาณ ที่จะทำการล้างในเวลานั้นๆ หรืออาจเทน้ำเกลือลงในภาชนะที่สามารถอุ่นในไมโครเวฟได้ แล้วอ่นในไมโครเวฟให้อ่นพอประมาณ2. ใช้กระบอกฉีดยาดูดน้ำเกลือ ในปริมาณน้อยๆ ก่อนเช่น ประมาณ 10-15 ซีซี ในผู้ใหญ่ หรือประมาณ 5 ซีซี ในเด็ก (หลังจากที่คุ้นเคยกับการล้างจมูก และรู้จังหวะของการหายใจแล้ว จึงค่อยๆเพิ่มปริมาณของน้ำเกลือในการล้างแต่ละครั้งขึ้นเรื่อยๆ)
3. ผู้ที่จะล้างจมูกควรนั่งโน้มตัวไปข้างหน้า และก้มหน้าเล็กน้อย หรือจะแหงนเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยก็ได้เช่นกัน อ้าปากไว้ แล้วหายใจเข้าเต็มที่ แล้วกลั้นหายใจไว้
4. สอดปลายกระบอกฉีดยา ใส่เข้าไปในจมูกข้างที่จะล้าง (ควรเริ่มล้างจมูกข้างที่โล่งกว่า หรือ คัดน้อยกว่าก่อน) แล้วค่อยๆ ฉีดน้ำเกลือเข้าไปในจมูกช้าๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทนได้ น้ำเกลือจะไหลเข้าไปในโพรงจมูก ผ่านโพรงไซนัส และไหลออกทางโพรงจมูกอีกข้าง หรือไหลลงคอ ข้อควรระวังระหว่างที่น้ำเกลือเข้าไปในโพรงจมูก จะต้องกลั้นหายใจไว้ มิฉะนั้นอาจหายใจเอาน้ำเกลือลงไปยังกล่องเสียงและหลอดลมทำให้เกิดการสำลักได้
5. เมื่อฉีดน้ำเกลือเข้าไปจนสุดกระบอกฉีดยาแล้ว บ้วนน้ำเกลือและน้ำมูกส่วนที่ไหลลงคอทิ้ง และสั่งน้ำมูกออกมา (แบบไม่แรงมากเกินไป เพราะเดี๋ยวแก้วหูเราจะมีปัญหา เอาให้พอรู้สึกว่าน้ำเกลือออกมาหมดแล้ว) ควรจะดันน้ำเกลือเข้าไปในโพรงจมูกทุกทิศทาง เช่น ทางขวา ซ้าย ด้านบนและล่างของโพรงจมูก เพื่อชะล้างน้ำมูกหรือสิ่งสกปรกได้ทั่วทั้งโพรงจมูก
6. ล้างจมูกสลับกันไปมาทั้ง 2 ข้างด้วยวิธีที่กล่าวข้างต้น จนรู้สึกว่าจมูกโล่ง ไม่มีน้ำมูกหรือสิ่งสกปรกอะไรคั่งค้างในจมูก และสังเกตน้ำเกลือที่ออกมาจากจมูกและปาก จะใสเหมือนกับน้ำเกลือที่ฉีดเข้าไปในโพรงจมูก จึงจะหยุดการล้างได้

ข้อควรทราบ
- ไม่ควรกลั้นหายใจเพื่อกักน้ำเกลือให้ค้างในจมูกนานเกินไป เพราะน้ำเกลืออาจจะไหลย้อนไปในไซนัส และการสั่งน้ำมูกให้สั่งเบาๆ และไม่ควรอุดรูจมูกอีกข้าง หรือถ้าอุดก็ไม่ต้องสนิท เพราะอาจทำให้ลมดันแก้วหูทะลุได้- แนะนำให้ล้างจมูกก่อนเวลารับประทานอาหาร (ขณะท้องว่าง) หรือหลังรับประทานอาหารแล้วอย่างน้อย 2 ชั่วโมงขึ้นไปเพื่อป้องกันการอาเจียนหรือสำลัก
- ควรล้างจมูกก่อนการอบจมูกด้วยไอน้ำเดือด หรือการพ่นยาในจมูกเสมอ
- หลังล้างจมูกเสร็จทุกครั้ง ควรล้างอุปกรณ์ที่ใช้ล้างจมูกให้สะอาด และตากให้แห้งก่อนใช้ครั้งต่อไป