นิทานโลกหุ่น ตอนที่ 4 กระต่ายกับเต่า
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ.ในป่าแห่งหนึ่ง
มีเต่าตัวหนึ่งคลานอย่างช้าๆ มาตามวิสัยของมัน และก็มีกระต่ายตัวหนึ่งวิ่งผ่านมาด้วยความรวดเร็ว
กระต่าย : ฮิฮิ นี่เจ้าเต่า เจ้าชอบ ที่จะเดินต่วมเตี้ยม ๆ อยู่อย่างนี้เสมอหรือ ทำไมเจ้าถึงได้เดินได้ช้าอย่างนั้นเล่า เดินช้าอย่างนี้ เจ้าเคยเดินไปถึงที่หมาย ซักครั้งบ้างหรือเปล่า
เต่า : ถึงแม้ว่าข้าจะเดินได้ช้า แต่ข้าไปถึงที่หมายทุกครั้งนั่นแหละ ที่ไหนที่กระต่ายอย่างเจ้าไปถึง ข้าก็ไปถึงได้เช่นกัน
กระต่าย : ขี้โม้ เดินช้าอย่างเจ้า เดินตลอดปีตลอดชาติก็ไม่มีวันถึงหรอก
เต่า : ไม่ได้โม้ บางทีอาจจะถึงที่หมายก่อนเจ้าด้วยซ้ำไป
กระต่าย : โอโห จี๊ด ๆ เอางี้ เรามาลองวิ่งแข่งกันซักตั้งมั้ยล่ะ ใครที่วิ่งไปถึงยอดเขาโน่นก่อน เป็นผู้ชนะ
เต่า : ไม่แข่ง
กระต่าย : แข่งเถอะ
เต่า : ไม่แข่ง
กระต่าย : งั้นตามใจ
เต่า : แข่งก็แข่ง
กระต่าย : อะไรกันวุ้ยเนี้ยะ
กระต่ายเมื่อได้ยินอย่างนั้น ก็หัวเราะลั่น
กระต่าย : ฮ่ะ ฮ้า น่าสนใจมาก เลยทีเดียว แต่รับรองได้ว่าไม่มีทางที่เจ้าจะ เอาชนะข้าไปได้หรอก ความเร็วของข้า กับเจ้า มันเปรียบเทียบกันไม่ได้เลย
กระต่ายเที่ยวไปเรียกมวลมหาประชาสัตว์ ให้มาชุมนุมกันอย่างทันทีทันใด รวมทั้งให้เป็นกรรมการใน การแข่งขันอีกด้วย
กระต่าย : พ่อแม่พี่น้อง มวลมหาประชาสัตว์ ทุก ๆ ท่าน โปรดมาดูและเป็นสักขีพยานว่า ใครจะเป็นผู้ชนะ ในการแข่งขันวิ่งเร็ว ระหว่างเต่าโง่กับตัวข้า..ฮ่ะฮ่ะ
และในวันแข่งขัน
หมาป่า : เตรียมพร้อม มวลมหาประชาสัตว์ทุกท่าน โปรดฟังสัญญาณนกหวีด ปรี๊ดดดดด
เสียงนกหวีด เป็นสัญญาณ บอกว่าการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ทั้งเต่าและกระต่ายก็เริ่มออกวิ่งไปพร้อม ๆ กัน เต่า ออกเดินไปอย่างช้าอย่างมั่นคง ส่วนกระต่าย กระโดดออกวิ่งนำหน้าไปด้วยความเร็วสูง เผลอแผลบเดียวมันก็วิ่งมาจนถึงที่ตรงจุดกึ่งกลาง ของทางระหว่างจุดเริ่มต้น กับเส้นชัย
กระต่าย : วิ่งนำหน้าเจ้าเต่า มาตั้งไกลแล้ว แหมแข่งแบบนี้ มันไม่ได้ลุ้นเอาซะเลย
และทันใดนั้น มันได้เหลือบไปเห็น ร่มไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ข้างสระน้ำ และมีลมเย็นพัดมาแสนสบาย
กระต่าย : อุ๊ย สถานที่แห่งนี้ ข้าเพิ่งเคยพบนี่แหละ ทำไมมันร่มเย็นสบายอย่างนี้ มีลมเย็นพัดมาเป็นระยะ เหมือนหน้าประตูเซเว่นยังไงยังงั้น ข้าคงไม่ได้พบเจอสถานที่ดีๆอย่างนี้บ่อยๆอีกเป็นแน่ เจ้าเต่ายังตามเรามาอีกไกล ขอไปนอนพักซักประเดี๋ยว จะดีมั้ย ไป ไม่ไป ไป ไม่ไป .... ไป ดีกว่า
และแล้ว กระต่าย ก็ตัดสินใจ ไปนอนพักที่ใต้ร่มไม้ใหญ่ กะว่า พอหายเหนื่อย ก็จะออกวิ่งต่อ
กระต่าย : เอาหล่ะ พักหายเหนื่อยแล้ว ออกวิ่งต่อดีกว่า
แต่ก่อนที่มันจะก้าวออกพ้นร่มไม้นั้น พลันเจ้ากระต่าย ก็เหลือบไปเห็น ผลไม้ สุก อวบอิ่ม สดใหม่ อยู่เต็มต้น
กระต่าย : อุ๊ย ไม่นึกว่าในเซเว่น จะมีขนมจีบ ซาละเปา เอ๊ย ผลไม้สุก อวบอิ่ม เต็มต้นเลย ถ้าเราออกวิ่งไป ไม่กินตอนนี้ เดี๋ยวสัตว์อื่นมาเห็นเข้า ต้องเด็ดกินหมดก่อนเป็นแน่ โปรโมชั่นดีๆ แบบนี้ ถ้าไม่รีบคว้าไว้เดี๋ยวหมดโปรโมชั่นก่อน เอา ไม่เอา เอา ไม่เอา เอา ดีกว่า
ว่าแล้ว กระต่ายก็ อยู่กินผลไม้ต่อจนอิ่มแปร่
กระต่าย : เฮ้อ พอท้องอิ่ม ก็ง่วง เอาไงต่อดีล่ะเนี้ยะ เจ้าเต่า ก็ยังอยู่อีกไกล นอนหลับก่อนซักตื่นดีมั้ย นอน ไม่นอน นอน ไม่นอน นอน ดีกว่า
มันพูดแล้วก็ล้มตัวลงนอน แล้วหลับไป ในขณะที่กระต่ายกำลังหลับอยู่อย่างสนิท มาดูฝั่งเจ้าเต่ากันมั่ง เต่าได้เดินตามมาติดๆ อย่างช้าๆ มาจนถึงที่ตรงจุดที่กระต่ายนอนหลับ พลันมันก็ได้ ยินเสียงหนึ่งซึ่งเป็นเหมือนกับเสียงกรนจากในที่แห่งหนึ่ง
เต่า : เอ๊ะ ใครมานอนหลับแถวนี้ เอ้า นี่เหมือนเสียงกรนของเจ้ากระต่ายนี่ แหมร่มไม้แถวนี้ ช่างเย็นสบาย เหมือนแอร์หน้าเซเว่น น่านอนพักเสียจริงๆ แต่ตอนนี้ เรายังอยู่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ วิ่งแข่งอยู่ เราจะมาพักตอนนี้ไม่ได้
ว่าแล้วเต่าก็ก้าวเดินต่อไป ทีละก้าว..ทีละก้าวอย่างจริงจังและอดทน จนเกือบจะถึงเส้นชัย เสียง เชียร์ โห่ ร้อง และเสียงนกหวีด ของมวลมหาประชาสัตว์ ต่างยินดีให้กับว่าที่ผู้ชนะ ดังไปถึง เจ้ากระต่ายที่กำลังหลับฝันหวานอยู่ ปรี๊ดๆ เสียงนกหวีด ทำให้เจ้ากระต่ายสะดุ้งตื่นทันที
กระต่าย : เฮ้ย ลืมไป ว่าเรากำลังวิ่งแข่งกับเจ้าเต่าอยู่ เฮ้..เจ้าเต่า มันคลานมาจนถึงที่ไหนแล้วนี่??
มันรีบกวาดสายตามองหา มองไปเห็นเจ้าเต่า อยู่เกือบจะถึงเส้นชัยแล้ว เจ้ากระต่าย จึงรีบวิ่งแจ้น ตามไปทันที
กระต่าย : จะทันมั้ยเนี้ยะ
แต่สายไปเสียแล้ว เมื่อมันไปถึง เจ้าเต่า ก็เข้าเส้นชัยไปก่อนหน้ามันเรียบร้อย
กระต่าย : โถ เราพ่ายแพ้เจ้าเต่าจนได้
เต่า : กระต่ายเอ๋ย ที่เจ้าแพ้นั่น ไม่ใช่ข้าดอก แต่ที่เจ้าแพ้คือ เจ้าพ่ายแพ้ต่อใจตนเองต่างหากเล่า
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จย่อมอยู่ไม่ไกล และการพ่ายแพ้ใจตนเอง ย่อมทำให้ห่างไกลความสำเร็จ