เคล็ดลับน่ารู้ ประโยชน์ของสับปะรดที่คุณรู้แล้วจะต้องทึ่ง
ขัดเครื่องทองเหลืองและเงิน
นำเปลือกของสับปะรดแช่น้ำ แล้วนำน้ำนั้นไปใช้แช่เครื่องทองเหลืองหรือเครื่องเงินทิ้งไว้ค้างคืน แล้วจึงมาเช็ดขัดถูตามปกติ จะทำให้ขัดง่าย และจะได้เครื่องเงินและเครื่องทองเหลืองที่สดใสแวววาว ดูราวกับของใหม่เลยทีเดียวมือและเล็บนุ่ม
เพียงแค่แช่มือในน้ำสับปะรดคั้นที่มีส่วนผสมของเปลือกด้วยจะช่วยให้ผิวมือและเล็บนุ่มเกลี้ยงเกลา เพราะโบลามีนในสับปะรดจะช่วยย่อยโปรตีนส่วนเกินและปรับสภาพผิวให้นุ่มเนียนหมักเนื้อหมู
น้ำสับปะรด 1 ช้อนโต๊ะ หรือสับปะรดหั่น 2-3 ชิ้น หั้นเป็นชิ้นเล็กๆ (สับปะรดไม่ควรมากเกินไป เพราะอาจจะให้เนื้อหมูเละไม่อร่อยได้) จะทำให้เนื้อหมูอ่อนนุ่ม และยุ้ยเปื่อยขึ้นเป็นยาแผนโบราณ
สรรพคุณทางยาพื้นบ้าน หนามของสับปะรดสามารถนำมาบดต้มแก้พิษเป็นยาคลายร้อน ลดไข้ ผลดิบและใบใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ ส่วนผลสุก แก้เสมหะ รักษาหนองใน ช่วยในระบบขับถ่าย ช่วยย่อยอาหารเป็นอาหารเสริมสุขภาพ
ในสับปะรดมีวิตามิน C และมีแคลเซี่ยมสูง ช่วยเสริมสร้างสุขภาพในช่องปาก ป้องกันโรคเหงือก เลือดออกตามไรฟัน นอกจากนี้ยังมีสารโบลามีน ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระต่อต้านการเพิ่มจำนวณของเซลล์มะเร็งได้ นอกจากนี้ยังป้องกันโรค ไตอักเสบ ความดันโลหิตสูง หลอดลมอักเสบลดความอ้วน
สับปะรดมีเส้นใยอาหารสูง กินแล้วจึงอยู่ท้องได้นาน ทำให้อิ่มนาน และด้วยความหวานของสับปะรด สามารถใช้กินร่วมกับผักสดอื่นๆ เช่นสลัดผัก โดยไม่ต้องใส่น้ำสลัด (ซึ่งแคลอรี่สูงมาก) ก็ให้รสชาติอร่อยได้ แต่ถ้าจะกินสับปะรดเพื่อลดความอ้วนก็ต้องจำกัดปริมาณการกินให้พอเหมาะด้วยนะ โดยสับปะรด 100 กรัม ให้พลังงาน 50 กิโลแคลอรี่ทำวัสดุของใช้
ใบของสับปะรด มีเส้นใยสูง มีความเหนียวสูง จึงสามารถนำไปผลิตกระดาษ เชือก และเทปกาวได้เป็นอย่างดีข้อควรทราบในการรับประทานสับปะรด
- ไม่ควรบริโภคมากเกินไปโดยเฉพาะผู้ป่วยโรคโลหิตจาง- สับปะรดที่เริ่มนิ่ม มีน้ำเหนียวๆ ไหลออกมา แสดงว่าสุกมากเกินไปและเริ่มเน่า ไม่ควรรับประทาน