ข่าวลวงโลก เตาไมโครเวฟ อันตราย

ความลวง
ดิฉันตั้งคำถามกับตัวเอง เมื่อเปิดคู่มือการใช้เตาไมโครเวฟแล้วพบคำอธิบายว่า แมกนีตรอนในเตาไมโครเวฟจะเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นคลื่นไมโครเวฟที่มีความถี่สูงถึง 2,450 ล้านรอบต่อนาที โมเลกุลของน้ำในอาหารจะเกิดการสั่นสะเทือนและเสียดกันจนเกิดความร้อนในคู่มือเน้นย้ำ (และดูเหมือนคนส่วนใหญ่ก็พร้อมจะเชื่อ) ว่าคลื่นไมโครเวฟไม่ใช่รังสี จะมีการสลายตัวและไม่สะสมในร่างกาย จึงไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ การเน้นย้ำจนผิดสังเกตนี้เองที่ทำให้ดิฉันสนใจค้นคว้าข้อมูลต่อไป และพบว่ามีข้อมูลการศึกษาผลกระทบด้านสุขภาพจาการใช้เตาไมโครเวฟไม่มากนัก แต่ผลการวิจัยเหล่านั้นมักนำมาอ้างอิงอยู่เสมอที่สำคัญ มักเป็นข้อมูลที่คนสนใส่ใจสุขภาพไม่ควรมองข้าม
งานวิจัยชิ้นใหญ่ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์การวิจัยเกี่ยวกับเตาไมโครเวฟ คืองานวิจัยของรัสเซียที่ค้นพบ คาร์ซิโนเจน (Carcinogen) หรือสารก่อมะเร็งในเนื้อสัตว์ นม และเมล็ดธัญพืช ที่ผ่านการหุงต้มด้วยไมโครเวฟ ส่วนวิตามินบี ซี อี ตลอดจนแร่ธาตุสำคัญต่างๆ ก็ลดลงด้วย เหตุที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากโมเลกุลในอาหารจะสั่นสะเทือนด้วยความเร็วหลายพันล้านรอบต่อนาทีทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งขั้นบวกและลบ โมเลกุลบางส่วนเสียหาย บางส่วนผิดรูปร่าง บางส่วนแตกกระจายเป็นโมเลกุลหรือสารประกอบใหม่ที่ร่างกายเราไม่เคยรู้จัก
รัสเซียประกาศห้ามใช้เตาไมโครเวฟนับตั้งแต่ปี 2519 เป็นต้นมา
ความจริง
ไมโครเวฟ เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ไม่ได้เป็นรังสีอย่างที่หลายคนเข้าใจ โดยอาศัยหลักการที่ว่า เมื่อคลื่นตกกระทบอาหาร ก็จะถ่ายทอดพลังงานของมันให้โมเลกุลของน้ำในอาหาร โมเลกุลเหล่านั้นจะเคลื่อนที่กระทบเสียดสีกันเองจนเกิดเป็นความร้อนขึ้น ทำให้อาหารสุกอย่างรวดเร็ว เพราะเกิดความร้อนจากภายในอาหารพร้อมกันเกือบทุกส่วนคลื่นไมโครเวฟตกค้างในอาหารได้หรือไม่
คลื่นไมโครเวฟที่ออกมาไม่ได้แตกตัวเป็นอนุภาค ไม่มีผลให้โมเลกุลของสารเปลี่ยน เมื่อคลื่นถ่ายทอดพลังงานให้กับอาหารจนหมดแล้ว ก็จะสลายหายไป ไม่ตกค้างในอาหาร และหากวัดระดับความเข้มข้นของคลื่นไมโคเวฟก็ไม่ได้สูงด้วย เรียงลำดับของคลื่นรังสีเเม่เหล็กไฟฟ้าจากพลังงานสูงสุดถึงต่ำสุดได้ดังนี้
เเกมม่า-เอ๊กซ์-อุลตราไวโอเล็ต-แสงเเดด-อินฟราเร็ด-ไมโครเวฟ-คลื่นวิทยุ
จะเห็นว่าพลังงานของไมโครเวฟต่ำจนเกือบสุดท้าย ต่ำกว่าแสงแดดเสียอีก จึงไม่น่าจะก่อให้เกิดอันตรายต่อมนุษย์
แสงจากเตาไมโครเวฟเป็นอันตรายต่อตาหรือไม่
แสงที่เห็นขณะที่เตาไมโครเวฟกำลังทำงาน ไม่ใช่แสงของคลื่นไมโครเวฟ แต่เป็นแสง จากหลอดไฟที่ผู้ผลิตติดตั้งไว้เพื่อให้เรามองเห็นอาหารเท่านั้นเอง เราสามารถมองดูแสงนั้นได้
คลื่นไมโครเวฟรั่วไหลออกมาทำอันตรายกับผู้ใช้ได้หรือไม่
หากสังเกตุ จะเห็นว่าภายในเตาไมโครเวฟจะเหมือนมีตาข่ายกั้นอยู่ ซึ่งเรียกว่า ลูกกรงฟาราเดย์ มีไว้เพื่อป้องกันไม่ให้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหลุดลอดออกมาภายนอกได้ เนื่องจากช่องของตาข่ายลูกกรงนี้เล็กกว่าความยาวคลื่นไมโครเวฟ คลื่นจึงไม่สามารถลอดผ่านออกมา และไม่สามารถเจาะทะลุทะลวงผ่านผนังตู้และฝาตู้ออกมาได้
คลื่นไมโครเวฟทำลายคุณค่าทางอาหารหรือไม่ อันนี้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันใดๆ อย่างชัดเจน
ส่วนเรื่องรัสเซียห้ามใช้ microwave ตั้งแต่ปี 2519 เป็นการบอกความจริงเสี้ยวเดียว รัสเซียประกาศนโยบายห้ามการใช้ microwave เป็นส่วนหนึ่งของสงครามเย็นกับสหรัฐอเมริกา แต่ต่อมาก็อนุญาตให้ใช้ได้